Anime Fall 2014

เหยดดดดด Terra Formars
Fate : Stay Night
Kiseiju
Gundam!! ( ไมรอบนี้มันฟิต ทำ 2 เรื่อง )
Log Horrizon

คิดถึง Series YS จังเลยครับ Falcom

ภาค 8 ผมจะมาเมื่อไหร่ครับ ผมเที่ยว Esteria , Celceta , Felghana , Altogo จนเบื่อแล้วนะครับ ( เกาะภาค 6 ชื่อเกาะไรหว่า ลืมแระ ) อย่างน้อยก็รีเมคภาค 5 ให้ผมก่อนครับ หรือมาภาค 8 เลยก็ได้ ทีมงานอย่าอู้ที ทีม Kiseki เค้าออกรัวๆ ทีม Ys หายเงียบเลยนะครับ แหม่

Rurouni Kenshin กรี๊ดดด อยากดู

ฉายที่ไทย 18 กันยา วันพฤหัสพอดี ต้องนั่งรถเข้ากรุงเทพไปดูละ อิอิอิอิ

This Weekly Humble Bundle. Japan Edition!!

https://www.humblebundle.com/weekly

รายชื่อเกมแจ๋วจริงๆ

Unholy Heights เกมเหมือนง่ายๆ ต๊องๆ เล่นจริงยากใช้ได้ แต่เล่นเพลินๆดี เปิดห้องให้มอนสเตร์มาพัก เก็บตัง สู้กับผู้กล้า พัฒนาห้องและคอนโด แล้วก็ครองโลกแม่มเบย 555

One Way Heroics ยังไม่ได้ลองเบยแจ้

Gigantic Army ดูคลิปแล้วโอเคเลย แนวๆวิ่งๆยิงๆแบบเมทัลสลัก เดี๋ยวต้องลุย

Ys Origin เกมเด็ดจากค่าย Falcom ( ค่ายโปรดครับ ) รอมันลดราคาสิบชาติ ไปๆมาๆโผล่ลงบันเดิ้ลซะงั้น กดแบบไม่ต้องคิด ฮ่าๆ

อีก 2 เกมไม่ทราบ เกมนึงต่อสู้ อีกเกมชู๊ตติ้ง เดี๋ยวว่างๆค่อยลองครับ

เกม 10$ ผมไม่กด เพราะตังหมด GG ครับ

เก็บเงินอย่างไรให้ได้ผล ?? ลองมาดูกัน

สวัสดีครับ บทความนี้จะค่อนข้างต่อเนื่องจากบทความก่อนหน้านี้ ซึ่งยังเกี่ยวกับเรื่องเงินๆทองๆเหมือนเดิม เพราะมีคนรีเควสมาว่า เก็บเงินยังไงให้ได้ไวๆ

ผมทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนปกติครับ ทำงานเดือนนี้เป็นเดือนที่ 9
เงินเดือน ได้เดือนละราวๆ 10,000  ( หักพวกประกันสังคมและวันลาไป เพราะผมมักจะมีเหตุให้ลางานเสมอ )

10,000 บาทนี้ทำอะไรกับมันบ้าง

2,600 บาทจะถูกจ่ายทุกวัน วันละ 100 ตามนโยบายบริษัทครับ อันนี้ใช้เป็นรายจ่ายประจำวัน
3,000-5,000 บาท จะพุ่งเข้าบัญชีฝากประจำทันที จำนวนจะขึ้นอยู่กับว่าเดือนนั้นผมมีภาระทางการเงินมากแค่ไหน แต่ส่วนใหญ่ผมจะเอาเข้า 5,000 เสมอ น้อยมากที่จะลดเหลือแค่ 3-4พัน ( เงินส่วนนี้ ผมเก็บไว้เผื่ออนาคต ที่ผมจะเอาไปเล่นหุ้น ซื้อสลาก ซึ่งต้องใช้ทุนสูงๆครับ )
ส่วนที่เหลือเข้าบัญชีบัตรเดบิต ไว้หมุนกันเงินช็อตในเดือนนั้นๆ ( อันนี้ไว้ลงทุนต่ำๆ ซื้อของใช้ ไม่ก็ไว้หมุนครับ )

ซึ่งส่วนใหญ่ เดือนนึงผมจะจบอยู่แค่ 2,600 บาทแรก ยกเว้นเผลอตามใจปาก กินร้านในห้างมากเกินไป หรือซื้อหนังสือ หรือ เกมมากไป บัญชีบัตรก็จะโดนลากออกมา ( เคยซื้อของจาก 3000 จนเหลือ 1 บาทในบัญชี )

เนื่องจากผมอยู่บ้าน และบ้านก็ถือว่าฐานะพอสมควร ผมจึงถูกยกยอดค่าน้ำค่าไฟให้ ไม่ต้องจ่าย ( ซึ่งปกติก็ใช้ไม่เยอะอยู่แล้ว เพราะ 1 อาทิตย์ทำงาน 6 วัน เลิกงานตกเย็นเล่นกีฬา กลับบ้านค่ำๆ อ่านนิยายบ้าง การ์ตูนบ้าง วันหยุดก็นอนยาวๆ ตื่นมาทำนู่นนี่ ก็หมดไปอีกวัน

ส่วนอาหาร เช้า = ขนมปัง ซีเรียล นม กลางวันก็ซื้อเอง เย็นนี่ยายทำให้กินครับ

อีกอย่างหนึ่งคือผมไม่เที่ยว ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ก็เลยไม่เสียเงินพวกนี้ไปครับ รถผมก็ไม่ขับเปลืองน้ำมัน ขึ้นรถสองแถว ไปกลับวันละ 16 บาท ( บางวันมีคนอนุเคราะห์ ผ่านมาเห็นก็รับ-ส่งก็มีครับ )

รายได้อีกทาง อาจจะตลกหน่อย แต่มาจากการเล่นเกมและพนันของในเกมครับ แล้วเอามาขายเงินจริงเอา ตอนนี้ก็รายซื้อเกมแบบไม่ต้องใช้เงินเลย ให้มันหมุนกันไปเอง สบายครับ ลดรายจ่ายในชีวิตไปแบบชิวๆ

อีกทางนึงที่ผมเล็งไว้คือสลาก ( ซึ่งมันไม่ถูกซะที ซื้อมาเป็นปีละ ) ตอนนี้เล็งจะบวกอีก 50000 คิดซะว่าซื้อหวย 36 งวดแบบฟรีๆครับ ฮาๆ ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ขำๆ ลุ้นได้ทุกเดือน

ในอนาคตก็ว่าจะลองหาพวกงาน career จากบริษัทต่างประเทศ เน้นทาง Translator กับ ลองเล่นหุ้นปันผลดูครับ อยากเป็น VI Invester ไม่อยากเสี่ยงเยอะ เก๋าแล้วค่อยลงของหนัก

แต่อย่าเก็บเงินมากไป จนลืมเอาไปใช้หาความสุขบ้างนะครับ คนเราไม่รู้จะตายเมื่อไหร่ ยังไงก็อย่าลืมหาความสุขให้ชีวิตบ้าง ไม่งั้นก็ไม่มีกะจิตกะใจจะไปต่อกันพอดี ( เล่นกับเงินสนุกนะครับ แต่อย่าเล่นมาก เดี๋ยวเงินหาย 5555 )

หวังว่าทุกท่านจะโชคดี มีเงินเก็บทุกคนครับ

ขำๆกับการไปเที่ยวสิงค์โปร์ครั้งแรก

สวัสดีครับ วันนี้ผมมีเรื่องจะเล่า เกี่ยวกับการไปสิงค์โปร์ และการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกในชีวิต
ซึ่งเป็นทริปแรกที่ผมได้ออกนอกประเทศ ประมาณ 3-4 ปีก่อน

เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ก็ถึงครับ เพราะอยู่ใกล้ๆไทยนี่เอง พอลงจากเครื่องก็มีไกด์มารับครับ Welcome to Singapore

ผมลงเครื่องบินมาครั้งแรกก็ประทับใจมากๆครับ เพราะเป็นประเทศที่สะอาดจริงๆ และอากาศก็ดีมากๆ ถึงจะต้นไม้ไม่เยอะและเขียวชอุ่มเหมือนประเทศไทย แต่เค้าก็ปลูกตลอดแนวถนนทั้งเกาะเลยครับ แถมรถก็ไม่มีควันพิษเลย เพราะถูกกฏหมายเข้มงวดเรื่องนี้ครับ ตรงนี้ผมชอบมากๆ

ที่นี่อาหารจะแพงมาก และก็ไม่อร่อย เพราะมีกฏหมายควบคุม(อีกแล้ว) อาหารส่วนใหญ่จึงจะค่อนข้างจืด โชคดีที่ผมไม่ชอบกินอาหารรสจัด ชอบกินจืดๆ จึงไม่ค่อยกระทบ แต่ไปกระทบครอบครัวผมมากกว่า ถ้าอยากกินของหวาน ต้องซื้อขนมหวานไปเลย อ้อ โรงแรมที่ผมพักมี sex shop เปิดข้างๆเลยครับ เลยลองเดินเข้าไปเปิดโลกทัศน์ดู ก็ถือว่าน่าสนใจครับ ( ฮา )

ตึกสูงดีไซน์สวยมาก ส่วนตัวผมชอบตึกนี้มากๆครับ ตอนล่องเรือชมวิวช่วงกลางคืน เปิดไฟแล้วสวยมากๆ

พูดถึงเรื่องประชากรของเค้าบ้าง ผู้คนในประเทศเค้าเจ๋งสุดๆเลยครับ เรื่องนี้ผมยกนิ้วให้เลย ผมตื่นมาหาอะไรกินตอน 6 โมงเช้า ภาพที่เห็นคือ ผู้คนออกมาทำความสะอาด กวาด ถูทางเท้า สุดยอดจริงๆครับ ( ผมพยายามหาขยะแต่ว่าหาไม่เจอจริงๆครับ ) และเช้าวันนั้น มีขอทาน ( จริงๆไม่อยากใช้คำนี้เท่าไหร่ ) มาขอเงินครับ คนรู้จักแม่ผมก็ควักแบงค์ 5 SGD ให้ครับ (สิงค์โปร์ดอลลาห์) ปรากฏว่าเค้าไม่เอาครับ เค้าบอกว่า 5ดอลลาห์มากไปครับ เค้าต้องการแค่แค่ดอลลาห์เดียวจะได้ซื้อโอวัลตินได้พอดีครับ ( โมเมนท์นั้นช็อคครับ 555 )

อีกข้อดีของที่นี่คือ เค้าไม่มีคนจรจัด ขอทาน หมาแมวจรจัดบนถนนเลยครับ โล่งไปหมด ทางเท้าเป็นทางเท้าจริงๆ เดินกันสบายๆ อากาศก็ดีครับ

อีกที่นึงที่ผมได้แวะไปคือนี่ครับ ชิงช้าสวรรค์สูงลิบลิ่วของสิงค์โปร์ ซึ่งจริงๆแล้วผมกลัวความสูงมากๆ แต่โดนบังคับขึ้นไปครับ 555 รับรู้ว่าความน่ากลัวจริงๆของมันไม่ใช่ความสูงครับ แต่ห้องมันเป็นกระจกใส่ครับ เห็นข้างล่างหมด แล้วสูงจิ๊บหาย ผมนั่งขาสั่นแหงกๆ มองไกลๆอย่างเดียวครับ จังหวะนี้ ลงถึงพื้นนี่เดินห่างๆเลยครับ สมเพชตัวเองชะมัด ฮาๆ

วันสุดท้ายผมได้ไปทีนี่ครับ

Universal Singapore ชอบมากๆฮะ ได้ดูเค้าเล่นหนังแอคชั่นแบบสดๆ ( เรื่อง WaterWorld ครับ ) ก็สนุกใช้ได้เลย ในส่วนตัวสวนสนุกเองก็เครื่องเล่นโอเค รู้สึกว่าเล่นแล้วปลอดภัยครับ ไม่เหมือนของไทย ที่เล่นแล้วเสียวตาย เพราะดูไม่ค่อยแข็งแรงมั่นคง เสร็จงานก็ซื้อของติดไม้ติดมือเตรียมกลับบ้านครับ

อ้อ ผมได้ไปเดินไชน่าทาวน์ด้วยครับ ซึ่งผมมีปัญหากับภาษาอังกฤษสำเนียงจีนมาก เพราะฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่อง แต่ก็พอคุยกันได้ครับ งูๆปลาๆ บอกเค้าพูดช้าๆไว้ก่อน เพราะพอทำท่าสนใจจะซื้อ เจ๊แกพูดน้ำไหลไฟดับ ฟังไม่ทัน

จริงๆผมอยากลงรูปตัวเองจริงๆมา แต่เนื่องจากไปเมื่อนานมาแล้ว พอกลับมา ล้างรูปเก็บใส่อัลบั้ม ก็ลบไฟล์ทิ้งไปเลยครับ ขออภัยมา ณ ทีนี้จ้า

เผื่อเป็นตัวเลือกนึงในการตัดสินใจไปเที่ยวของหลายๆท่านนะครับ ผมลาไปก่อน ฟิ้ว
ปล. อาจจะพูดเหมือนประเทศเค้าดีไปหมด ( แต่มันดีจริงๆครับ ยกเว้นของแพง และอาหาร.....ไม่อยากจะพูด ) แต่ผมก็ยังขออยู่ประเทศไทยเหมือนเดิมดีกว่าครับ

ของ 6 สิ่งที่คุณอาจคิดไม่ถึง ที่ทำให้เงินเก็บคุณเป็นศูนย์

ผมพยายามพึงระลึกเสมอว่า ทำไมเงินเก็บเราถึงเก็บไม่ได้ ทั้งๆที่รายจ่ายเราไม่มาก จนสุดท้ายผมก็มานึกถึงประเด็นสำคัญๆที่เรามองข้ามไป ว่าสิ่งใดที่ทำให้ผู้ชายหลายๆคน ต้องหมดสิ้นเงินเก็บ ซึ่งแน่นอนว่าสาวๆก็อาจจะเข้าข่ายเหล่านี้กัน ลองดูกัน ( ปล. ผมคิดเองทั้งหมด ผิดพลาดตรงไหน ไม่เห็นด้วยยังไง ชี้แจ้งได้จ้า )

1. แอลกอฮอล์ : สิ่งสำคัญที่ทั้งชาย ( และหญิง ) ต้องสูญเงินไปกับมัน ทั้งนี้รวมถึงการไปดื่มในผับ บาร์ คาราโอเกะ ซึ่งจะทำเอาคุณกระเป๋าฉีกเอาง่ายๆ เพราะพอเมาแล้วตาลายควักจ่ายไม่ยั้ง สร่างอีกทีก็นอนอยู่กองขยะแล้ว ฮ่าๆ ( เฮ้ย ผมพูดขำๆนะ ใครเป็นจริงอย่าโกรธผมนะครับ ) สำหรับสาวๆที่ไปเที่ยวบ่อยๆ ก็จะเสียเงินจากตรงนี้น่าจะไม่น้อยเหมือนกัน ยังไงก็เที่ยวกันเบาๆละกันนะครับ

2. บุหรี่ : ผมกล้าถามเลยครับ สำหรับคนสูบบุหรี่จัด ผมถามเลยว่าวันนึงกี่ซองครับ แล้วซองนึงกี่บาท ( ของนอกนี่ไม่ต้องพูดถึงราคาเลยครับ ) อย่างคนรู้จักผมนี่ แทบจะชั่วโมงละมวนเลยครับ ผมตีคร่าวๆเลยว่า วันนึงน่าจะไม่ต่ำกว่า 1 ซอง ตรงนี้ผมยังไม่พูดถึงค่ายาในกรณีป่วยนะครับ เพราะบางคนก็แข็งแรงดี แต่บางคนก็ป่วยเป็นมะเร็งไปเลยก็มี บางคนก็ตายก่อนจะเป็นมะเร็ง เพราะงั้นเรามองข้ามไปนะครับ

3. ค่าทำฟัน : ตื่นเช้าล้างหน้า แปรงฟัน แปรงทุกๆวันฟันจะสวยดี ฮ่าๆ เคยร้องกันไหมครับ อาจจะเป็นสิ่งที่หลายๆคนคาดไม่ถึง เพราะค่าถอนฟัน หรืออุดฟัน มันแค่จิ๊บๆ 200-500 บาท เองใช่ไหมครับ
ใช่ครับ มันดูเป็นรายจ่ายที่ไม่น่าห่วง ตราบใดที่มันยังไม่กลายเป็นรักษารากฟัน หรือทำครอบฟันครับ เพราะพอมันกลายเป็นเรื่องพวกนี้ จาก 500 จะกลายเป็น 5000 ในทันที แล้วเราต้องใช้ฟันไปอีกนาน แค่คิดก็สยองแล้วนะครับ เพราะฉะนั้นก็อย่าลืมรักษาสุขภาพช่องปากนะครับ เพราะผมก็ชอบพลาดนอนไม่แปรงฟัน เผลอแปปเดียว ก็ผุเป็นรูโบ๋ไปแล้ว ( โดนด่าเรื่องค่าทำฟันประจำ )

4. ผู้หญิง ( ผู้ชาย ) : แหม ผมพูดมาถึงประเด็นเสี่ยงตายซะแล้ว ผมเชื่อว่าใครๆก็เคยลงทุนจีบคนที่รักที่ชอบมาแล้วใช่ไหมครับ จีบเด็กบ้าง จีบรุ่นพี่บ้าง มันก็ต้องมีรายจ่ายเป็นธรรมดา แต่ถ้าเผลอหน้ามืดจ่ายไม่คิด ก็ทำให้เจ็บหนักได้เหมือนกัน เพราะงั้นทางทีดี ก็หาแฟนแฟร์ๆ 50-50 ดีกว่านะครับ เลี้ยงบางโอกาสได้แต่ไม่ใช่เลี้ยงไปตลอดชีวิตนะครับ ( แต่ถ้าคุณบ้านรวยผมไม่ว่ากัน )

5. สุขภาพ : สิ่งที่ผมคิดว่าคนสมัยนี้ลืมเลือนไปแล้วครับ ผมพูดเลยว่าประเทศไทย ติดรสหวานมากๆครับ จากที่ได้มีโอกาสดีๆ ได้ไปเที่ยวต่างประเทศมาบ้างในโซนเอเซีย ผมสังเกตเลยว่า อาหารบ้านเรา ( ผมไม่นับขนมหวาน ) จะหวานกว่าที่อื่นมากๆ ผมเคยรู้สึกหาอะไรกินไม่ได้เลย จืดไปหมด เห็นมาม่า โอวัลตินอิมพอร์ตจากไทย ( ที่สิงค์โปร์ครับ ) ผมก็จัดเลยครับ . . . . โคตรจืด จนผมคิดว่ามันไม่ได้ปรุงอะไรเลย โอวัลตินถ้าไม่มีกลิ่นโกโก้นี่ผมจะคิดว่ากิ่นน้ำเปล่า มันต่างกันจริงๆนะครับ ( แถมเสือกแพงอีก ) เพราะงั้นที่ผมจะแนะนำคือ อย่าลืมออกกำลังกาย ให้สุขภาพแข็งแรงนะครับ เคยมีคำกล่าวที่ว่า "คนเราทำงาน เพื่อหาตังมารักษาตัวเอง" ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะครับ

6. ค่านิยมส่วนตัว : รายจ่ายพิเศษที่ผมคิดว่าทุกคนน่าจะมี อย่างผมชอบเล่นเกม อ่านการ์ตูน ผมมักจะซื้อเกมจาก Steam และหนังสือการ์ตูนเสมอ จนเป็นรายจ่ายที่ไม่ใช่เบาๆ ซึ่งตอนนี้พยายามลด โดยการคิดเยอะๆแล้วว่า ซื้อมาได้เล่นได้อ่านไหม เพราะพอทำงานแล้วดองเต็มไปหมดเลยครับ ลองคิดๆดูนะครับ ว่าเราจ่ายให้สิ่งที่ไม่จำเป็นอะไรไปบ้าง

สุดท้ายแล้วขอฝากวลีนี้ไว้ครับ : "จงอย่าออมเงินจากเงินที่เหลือใช้ แต่จงใช้เงินจากเงินที่เหลือจากการออม"  ( ประโยคนี้เป็นของฝรั่งท่านนึงที่ผมไปอ่านเจอ ลืมใช่ไปแล้วครับ ใครทราบบอกผมด้วยครับ จะได้ใส่เครดิตไว้ )

และการไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐครับ

วันนี้มีเรื่องคุยเท่านี้แหละครับ ลาก่อนครับ ฟิ้วววววว

หวังว่าทุกท่านจะเก็บเงินกันได้เยอะๆนะครับ ส่วนผมจะเก็บเงินไปเที่ยวญี่ปุ่นครับ อยากไปจับมือดารา AV ( เอ้ย ไม่ใช่ ผมล้อเล่น อย่าเชื่อจริงจังนะ )

Parasyte ฉบับ Movie นี่มันน่าดูจริงๆเลย

อ่านครั้งแรกในนิตยสารรวมเล่มสำนักพิมพ์อะไรไม่รู้ เล็กๆหนาๆ เมื่อราวๆเกือบ 20 ปีก่อน ทำไมเพิ่งจะมาเป็นอะนิเมะกับมูฟวี่เอาซะตอนนี้ ( ดักแก่พอๆกับซามูไรพเนจรเล้ย )

รายละเอียดคร่าวๆ : เรื่องราวในช่วงที่โลกถูกคุกคามโดย Parasites ตัวปรสิตรูปร่างคล้ายหนอนที่จ้องจะเข้าไปในหูและจมูกเพื่อควบคุมสมองของ มนุษย์ โดยหนึ่งในเหยื่อเหล่านั้นคือหนุ่มวัยรุ่นนามว่า ชินอิจิ อิซูมิ ที่ถูกพวกมันโจมตีในขณะหลับ แต่ด้วยความที่เขามักสวมหูฟังขณะเข้านอนอยู่เสมอจึงทำให้ Parasites เปลี่ยนไปจู่โจมที่แขนของเขาแทน ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงกลายเป็นการรวมร่างอันเป็นเอกลักษณ์ที่สามารถเอาชนะเหล่า ปรสิตตัวอื่น ๆ ได้อย่างราบคาบ โดยที่สมองของ ชินอิจิ อิซูมิ ยังคงสมบูรณ์ครบถ้วน

credit : http://movie.kapook.com/view93082.html

แหม่ เริ่มตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1990 นี่มันหลังผมเกิดปีเดียวเอง ฮาๆ ( ไม่ค่อยจะบอกอายุตัวเองเลยดิ )